คำว่า "วัฒนธรรม" มีรูปศัพท์มาจากคำบาลีและสันสกฤต คำว่า วัฒน มาจากภาษาบาลี คือ วฑฺฒน ส่วน ธรรม มาจากภาษาสันสกฤต คือ ธรฺม หากเขียนตามรูปศัพท์บาลีทั้งหมดก็เป็น วฑฺฒนธมฺม หรือเขียนตามรูปสันสกฤตเป็น วรฺธนธรฺม วัฒนธรรมมีความหมายตามศัพท์ว่า ธรรมเป็นเหตุให้เจริญ หรือ ธรรมคือความเจริญ
คำว่าวัฒนธรรมนีเ บัญญัติจากภาษาอังกฤษว่า culture เดิมพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ทรงบัญญัติว่า พฤติกรรม โดยทรงประสงค์ให้เป็นรูปศัพท์สันสกฤตทั้งหมด แต่คำนี้ไม่ติดใช้ในภาษาและต่อมาทรงเปลี่ยนเป็นวัฒนธรรม ซึ่งเป็นคำที่ใช้อยู่ทุกวันนนี้ คำว่า วัฒนธรรม มีใช้เป็นหลักฐานทางราชการครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2483 โดยมีประกาศใช้พระราชบัญญัติบำรุงวัฒนธรรมแห่งพุทธศักราช 2483 แต่มิได้หมายความว่าเดิมเราไม่มีวัฒนธรรม เรามีวัฒนธรรมนานแล้ว เพียงแต่เราเรียกต่างกันไปตามลักษณะของวัฒนธรรม เช่น เรียกว่า ประเพณี มารยาท ความเคยชิน จรรยา การช่าง เป็นต้น
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นการกล่าวถึงความหมายของวัฒนธรรมอย่างกว้างๆ
ความหมายของวัฒนธรรมตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พุทธศักราช 2485 ได้กำหนดความหมายไว้ว่า "วัฒนธรรม ความหมายว่า ลักษณะที่แสดงถึงความงอกงาม ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความกลมเกลียวก้าวหน้าของชาติ และศีลธรรมอันดีของประชาชน" ซึ่งเป็นความหมายที่มุ่งในทางปฏิบัติ
โดยสรุป วัฒนธรรม หมายถึง "ผลิตผลของส่วนรวมที่มนุษย์ได้เรียนรู้มาจากคนแต่ก่อนสืบทอดจนมาเป็นมรดกของสังคม ซึ่งสังคมนั้นยอมรับและรักษาให้เจริญงอกงาม" หรืออีกนัยหนึ่ง "วัฒนธรรมก็คือสิ่้งที่กำหนดกฏเกณฑ์ที่มนุษย์ในส่วนรวมสร้างขึ้นมา เพื่อประโยชน์หรือเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษญ์ในสังคมนั้นๆ ดังนั้นจึงสำแดงออกมาเป็นพฤติกรรมทั้งความคิด การกระทำ สืบทอดกันไม่ขาดสาย และเป็นการแสดงซึ่งบุคลิกลักษณะประจำชาติ
เอกสารอ้างอิง
ประจักษ์ ประภาพิทยากร และคณะ. ภาษากับวัฒนธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 9. นนทบุรี: ไทยรุ่มเกล้า. มปท. (เอกสารอัดสำเนา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น